ข้าคือพญางูเจ้าค่ะ มิใช่พญานก!
เพราะไม่เคยสมหวังเรื่องความรัก จาก นางพญางู ผู้บำเพ็ญเพียรจนสำเร็จกลายเป็นเซียนอย่างข้ากลับมีฉายาคือ นางพญานก ผู้ไม่มีดวงเรื่องความรักไปแทนซะงั้น ดังนั้นเพื่อรักครั้งนี้ข้าจะขอทุ่มสุดตัวให้จงได้!
ผู้เข้าชมรวม
508
ผู้เข้าชมเดือนนี้
7
ผู้เข้าชมรวม
ข้อมูลเบื้องต้น
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ตัวข้าอยู่มานับพันปีแล้วยังไม่เคยสมหวังเรื่องความรักดั่งผู้ใดเขาเลยสักครั้งหนึ่ง
ทำให้นางพญางูผู้บำเพ็ญเพียรจนสำเร็จกลายเป็นเซียนอย่างข้าถูกเรียกขานว่าเป็นนางพญานกผู้ไม่มีดวงเรื่องความรักไปซะงั้น
ดังนั้นเพื่อรักครั้งนี้ข้าจะขอทุ่มสุดตัวไม่ว่าจะแผนอะไรก็ตาม ข้าจะเอาออกมาใช้ให้หมด!
♦ ♦ ♦ ♦ ♦ ♦
ตัวละคร (อัพเดทเรื่อยๆค่ะ)
1. ‘หมิงลู่’ [พญางูที่มีฉายาว่าพญานก]
งูขาวผู้บำเพ็ญจนสำเร็จเป็นเซียน ลูกศิษย์ของพรรคหยกราตรี สตรีผู้เพียบพร้อมอ่อนหวานจนผู้ใดต่างกล่าวชมข้าว่าเป็นแบบอย่างของสตรีทั้งมวล แล้วเหตุใดเล่าหมิงลู่ผู้นี้จึงไม่เคยสมหวังเรื่องความรักเลยสักครั้ง! ถ้าความอ่อนหวานน่ารักของนางยังไม่ได้ช่วยให้สมหวัง ข้าก็ขอปล่อยวางความอ่อนหวาน ปลดปล่อยตัวตนเป็นตัวเองสักทีเถอะน่า! แต่ว่า…ทำไมข้าก็ยังไม่สมหวังกันล่ะ!
2. ‘จิวซื่อ’ [บุรุษที่ชอบถูกงูกินเต้าหู้บ่อยๆ]
‘จิวซื่อ’ ศิษย์รักของพรรคฟ้าสุริยา ผู้บังเอิญเก็บงูขาวแสนเชื่อง(?)ตัวหนึ่งมาเลี้ยงแบบงงๆ และได้ทำการตั้งชื่อว่า ‘เสี่ยวไป๋’ แต่ไม่รู้ว่าทำไมเสี่ยวไป๋ของเขากลับขี้อ้อนมาก ชอบซุกอยู่ในเสื้อของเขา
ชอบแอบมานอนขดกับเขายามเขาหลับ แถมบางครั้งยังชอบเลื้อยบนบนตัวเขา บางครั้งก็มาอาบน้ำด้วย
จนเขารู้สึกเหมือนถูกงูกินเต้าหู้บ่อยๆไปเสียได้…
4. หมิงมี่ฮวา [อาจารย์ผู้ปวดหัวกับศิษย์แทบจะทุกชั่วยาม]
อดีตเป็นงูดำที่บำเพ็ญเพียรจนสำเร็จเป็นเซียน มีอายุเกือบแสนปีแล้ว แต่ใบหน้ายังคงสวยงามอ่อนวัยอยู่ เป็นอาจารย์ที่ปากร้ายแต่รักศิษย์มาก ปัจจุบันดำรงตำแหน่งประมุขพรรคหยกราตรี เรื่องน่ากังวลช่วงนี้คือเรื่องของศิษย์รักคนหนึ่งกำลังรักหลงบุรุษผู้หนึ่งเป็นเอามาก(อีกแล้ว)
5.เจี่ยวมี่ [พญานกแท้ๆที่กำลังสับสนระหว่างชื่อเรียกของนางกับฉายาของเพื่อนสนิท]
อดีตเป็นนกกระจอกที่บำเพ็ญเพียรจนสำเร็จเป็นเซียนได้ไม่นาน เป็นผู้ช่วยเรื่องความรักและเพื่อนสนิทของหมิงลู่ ภายนอกเป็นคนน่ารักอ่อนหวานแต่ที่จริงมีนิสัยชอบแกล้งคนอื่นเป็นที่สุด
♦ ♦ ♦ ♦ ♦ ♦
- บทนำ -
ข้ามีนามว่า
หมิงลู่ งูขาวผู้บำเพ็ญเพียรนับพันปีจนสำเร็จเป็นเซียน ณ
ตอนนี้ตัวข้าคือศิษย์ของพรรคหยกราตรี เป็นศิษย์ที่นับได้ว่ามีพรสวรรค์อยู่ตนหนึ่ง ข้าเป็นหญิงสาวที่อ่อนหวาน
กริยาอ่อนช้อย หน้าตางดงามแฝงความเย้าย้วนและมีเสน่ห์ที่มากกว่าปกติซึ่งเป็นผลพวงจากการที่เคยเป็นงูมาก่อน
แต่ข้ากลับมีปัญหาหนักใจอย่างหนึ่งคือข้าไม่เคยสมหวังกับความรักเลยสักครั้งเดียว
ประวัติความรักที่ผ่านๆมาของข้านั้นช่างเจ็บปวดมากนัก
“เจ้าเลิกยุ่งกับข้าเถอะนะหมิงลู่”
รักแรกของข้ากล่าวกับข้า
“ทำไมกันละเจ้าคะ หรือตัวข้าไม่ดีสำหรับท่านกันละเจ้าคะ”
เขาถอนหายใจออกมาเบาๆ
“ข้าชมชอบสตรีที่เย็บปักถักร้อยได้งดงาม
เสียงหวานดั่งน้ำผึ้ง แล้วก็บรรเลงดนตรีได้อย่างไพเราะลึกซึ้งเสียมากกว่า
ซึ่งสิ่งเหล่านี้…เจ้าไม่มีเลย”
ข้าช้ำใจมาก
เลยไปเรียนเย็บปักถักร้อยจนเชี่ยวชาญ กินน้ำผึ้งทุกวันจนเสียงของข้าหวานละมุน
เรียนบรรเลงพิณจนถูกลำลือว่าบรรเลงเชี่ยวชาญและไพเราะยิ่งกว่านางฟ้าบนสวรรค์เสียอีก
“พอเถอะ…เจ้าหยุดยุ่มย่ามกับข้าได้แล้วหมิงลู่…”
รักที่สองกล่าวกับข้า
“ข้าทำสิ่งใดผิดรึเจ้าคะ”
“เจ้าก็รู้ว่าข้าชมชอบสตรีผู้สามารถร่ายรำได้อย่างงดงามอ่อนช้อย
แต่เหตุใดเจ้าจึงไม่มีทักษะเหล่านี้เลยเล่า”
“…” ข้าเงียบไปครู่หนึ่ง
รักที่สองปราดตามองข้าครานึง
แล้วหันหลังเดินจากข้าไป
ข้าจึงไปเรียนการร่ายรำให้อ่อนช้อยสวยงามพลิ้วไหวให้งดงามยิ่งกว่านางรำบนสวรรค์
“หมิงลู่” รักที่สามเอ่ยเรียกข้า
“เจ้าคะ”
เขายิ้มให้ข้าเบาๆ
“ข้าว่า…เรายุติความสัมพันธ์นี้กันเสียดีกว่า”
…คราวนี้อะไรอีก
“นายท่านของข้าได้หมั่นหมายข้ากับลูกสาวของนายท่าน…” เขากล่าวด้วยเสียงขมขื่น
อย่างน้อยเหตุผลก็ฟังขึ้นกว่ารักแรกกับรักที่สองข้าก็แล้วกัน…
“นางชมชอบข้ามานานแล้ว
อีกทั้งนางยังแกร่งมาก ขนาดตัวข้าก็อาจจะไม่สามารถสู้ชนะนางได้…”
“…” ข้านิ่งงันไป “ถึงแม้จะเป็นตัวท่านน่ะรึเจ้าคะ”
เขาพยักหน้าเบาๆ
ด้วยเหตุนี้รักที่สามของข้าจึงถูกสตรีเหล็กผู้หนึ่งแย่งไป
ข้าแค้นมาก
เลยไปฝึกวิชาจนแกร่งกล้าหวังจะไปแก้แค้น แต่ไม่รู้เหตุใดพอข้ากลับมา อาจเป็นช่วงระหว่างที่ข้าฝึกวิชา
พวกเขากลับพัฒนาความสัมพันธ์ จนรักกันเสียหวานชื่น ข้าจึงไม่กล้าไปขัดขวางความรักนั้น…
“ยอดรักของข้า”รักที่สี่เอ่ยด้วยเสียงเศร้าๆ
“เราจะยุติความสัมพันธ์กันรึเจ้าคะ”
ข้าถามออกไปด้วยประสบการณ์ที่เคยเจอ
เขาทำหน้าตกใจ
“เหตุใดเจ้าจึงรู้กันเล่า”
“ไม่ต้องสนใจหรอกเจ้าคะ”
ข้าถอนหายใจ “เหตุใดกันรึเจ้าคะ
ข้าไม่ดีพอหรือเจ้าคะ”
เขาส่ายหน้า
ข้าทำหน้าฉงน
“งั้นเพราะเหตุใดกันเล่าเจ้าคะ”
“รอยยิ้มของเจ้า…มันดูไม่จริงใจเสียเท่าไร”
ข้าคิ้วกระตุกเบาๆ
“ว่าอย่างไรนะเจ้าคะ”
“อะ-อ่า…เจ้าดูไม่จริงใจเสียเท่าไรยังไงเล่า…สิ่งที่เจ้าเป็นอยู่ดูไม่ใช่ตัวตนของเจ้าเลยน่ะ…”
ข้าเหนื่อยใจมาก
เลยเดินออกมาเอง ไม่ต้องรอให้เขาหันหลังทิ้งข้าไว้
ต่อมาข้าจึงละทิ้งความอ่อนหวานของตนไป ถึงจะอ่อนหวานเรียบร้อยไปความรักก็ไม่สมหวัง งั้นต่อไปนี้ข้าจะทำอะไรก็เรื่องของข้า
“หมิงลู่”รักที่ห้ากล่าวกับข้า “เรามายุติ-”
“คราวนี้อะไรอีก” ข้ากล่าวถามก่อนที่เขาจะพูดจบเสียอีก
“คราวนี้รึ” เขาทำหน้างงๆ “พูดเหมือนกับเจ้าเคยอยู่ในสถานการณ์เช่นนี้มาก่อนเลย”
…ก็แน่ละสิ
“ไม่มีอะไรมากมายหรอกหมิงลู่
ข้าแค่คิดว่าเราอาจจะไม่เหมาะสมกัน พวกเราคบหาดูใจกันมาตั้งนานแล้ว เรายังไม่รู้จักกันและกันดีพอเลย”
“อืม…” แล้วข้าก็เดินออกมาเลย ทิ้งให้เขามองแผ่นหลังบางของข้าจากไป
.
..
...
และรักต่อๆมาของข้าก็ไม่เคยสมหวังเลยสักครั้งเหมือนเดิม
สรุปแล้ว
ข้าก็คือคนที่ไม่มีดวงเรื่องความรัก พยายามแค่ไหนก็ไม่สมหวัง ต่อให้ดีแทบตายแค่ไหน
เขาผู้นั้นก็จะมีข้ออ้างมาเลิกรักข้าเสมอๆ ผ่านมาเป็นสิบรัก นับหลายพันปีแล้ว
ข้าก็ยังไม่เคยสมหวังเลยสักที
แต่ไม่รู้ว่าข้าควรดีใจหรือไม่
ที่ผลพวงจากความพยายามที่จะสมหวังในความรักของข้าครั้งก่อนๆ
ทำให้ข้าได้ร่ำเรียนทักษะต่างๆมามากมายนับไม่ถ้วน แน่นอนว่า…ด้วยทักษะเหล่านี้
ไม่ว่าข้าจะเกี้ยวชายหนุ่มแบบใด โอกาสสมหวังของข้าก็ยิ่งเพิ่มขึ้น
ฉะนั้นแล้วคงมีสักวันนั้นแหละที่ตัวข้าจะสมหวังอย่างใครเขาบ้าง!
แต่ที่ช้ำใจที่สุดไม่ใช่เรื่องความรักที่ไม่สมหวังแต่เป็นเจ้าผลพวงจากความไม่สมหวังอย่างฉายาเรียกขานที่เปลี่ยนจาก
‘นางพญางู’ เป็น ‘นางพญานก’ แทน
ผู้อื่นเรียกขานข้าแบบนี้เนี่ย…ไม่ค่อยน่าจรรโลงใจสักเท่าไรเลยนะ…
ผลงานอื่นๆ ของ นายหญิงจันทรา ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ นายหญิงจันทรา
ความคิดเห็น